SF [HSJ-OkaRyu] You're the first You're the last one (Yaoi)
ไม่มีอะไร แต่งด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ^^
ผู้เข้าชมรวม
654
ผู้เข้าชมเดือนนี้
7
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
You are the first - You are the last one
ท้องฟ้ายามรัตติกาลที่สงบเงียบและเยือกเย็น แผ่นฟ้ากว้างไร้ซึ่งแสงดาวประดับคงมีแต่เพียงความมืดมิดเท่านั้นที่ปรากฏแก่สายตา
ภายในห้องนอนใหญ่ที่ถูกตกแต่งอย่างเรียบง่าย ผ้าปูที่นอนสีขาวที่เคยราบเรียบบัดนี้กลับยับยู่ยี่ด้วยโดนแรงขย้ำอย่างรุนแรงจากบุคคลที่นอนอยู่ เสียงหอบหายใจของคนทั้งสองที่กำลังปฏิบัติกิจแห่งกามอยู่นั้นดังก้องราวกับไม่สนใจว่าจะมีใครได้ยินในราตรีที่เงียบสงัดนี้
ร่างหนาโถมตัวใส่ร่างบางที่นอนราบอยู่บนเตียงหนานุ่มนั้นอย่างหนักหน่วงโดยแทบไม่ได้ปล่อยให้พักหายใจ จังหวะการขยับตัวและเสียงร้องครวญครางที่ดังสอดคล้องกันนั้นกำลังจะทำให้แรงปรารถนาของทั้งคู่มาถึงขีดสุด เคโตะจับมือริวทาโร่แน่นขณะที่แรงกระทำกำลังรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ บางอย่างภายในตัวเขากำลังจะถูกปลดปล่อย เคโตะโถมตัวใส่ริวทาโร่อย่างรุนแรงอีกไม่กี่ครั้งก่อนที่น้ำแห่งกามารมณ์จะพุ่งออกมาจากทั้งตัวเขาและร่างบางที่เขาทับอยู่
เคโตะรู้สึกถึงร่างกายที่เบาโหวงและสมองที่ว่างเปล่าทันทีที่ได้ปลดปล่อยความทรมานนั้นออกไป เขาล้มทับริวทาโร่อย่างอ่อนแรงพร้อมเสียงหอบหายใจที่หนักหน่วงจากความเหนื่อยล้าของภารกิจที่เพิ่งผ่านพ้นไป เขาถอนสิ่งนั้นออกมาจากตัวของริวทาโร่พร้อมล้มตัวลงนอนข้างๆร่างบางนั้น เคโตะถอนหายใจก่อนจะหันหน้าไปอีกทางหนึ่งเพื่อหลบหน้าของคนที่นอนข้างๆ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของกามกิจที่เขาต้องปฏิบัติกับริวทาโร่ ผ่านมาปีหนึ่งแล้วนับตั้งแต่ข้อตกลงครั้งนั้น เขายังจำคำพูดของร่างบางที่เคยพูดกับเขาได้ ‘นายต้องเป็นของฉันตลอดไป’ ใบหน้าของคนรักผุดขึ้นในห้วงความคิด ยูริไม่เคยรับรู้ถึงการทรยศหักหลังที่เขาทำนี้ ใบหน้าสวยนั้นยังคงยิ้มแย้มแจ่มใสทุกครั้งที่เห็นเขา จากทุกค่ำคืนที่ได้ดื่มด่ำกับรสชาติแห่งความปรารถนาร่วมกับริวทาโร่ ในวันต่อมาเขากลับต้องอยู่กับยูริโดยทำทีว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ความรู้สึกผิดกำลังโหมกระหน่ำในจิตใจดั่งพายุร้ายที่กำลังกลืนกินเขาทีละน้อย
แขนขาวเนียนของริวทาโร่โอบกอดร่างเขาไว้อีกครั้ง ดวงตาบ๊องแบ๊วนั้นมองเขาอย่างพึงพอใจ “วันนี้ทำไมนายรุนแรงจัง แต่แบบนี้แหละฉันชอบ” ร่างบางยิ้มโดยไม่มีความกระดากอายในสิ่งที่ตนเองทำ รู้ทั้งรู้ว่าเขามีแฟนแล้วแต่ก็ยังคงขอให้เขาทำแบบเดิมซ้ำๆทุกวัน เพียงเพราะรูปใบเดียวใบนั้นที่ทำให้เขาต้องทนทรมานด้วยความรู้สึกผิด รูปของกิจกรรมครั้งแรกของพวกเขา ในวันที่เขาโดนริวทาโร่ไล่ต้อนจนจนมุม ในวันที่เขาเผลอตัวไปแค่ชั่วนาทีเดียว ครั้งแรกของเขาและครั้งต่อๆมามีเพียงริวทาโร่เท่านั้นที่ได้มันไป
เคโตะดึงแขนนั้นออกอย่างรำคาญแล้วลุกขึ้นมาใส่เสื้อผ้าที่ถูกโยนกระจัดกระจายอยู่รอบเตียง เขาหยิบกระเป๋าตัวเองขึ้นมาก่อนจะหันไปทางร่างบางที่นอนเปลือยกายด้วยท่าทีสบายๆอยู่ “เมื่อไรจะหยุดเรื่องนี้สักที” เขาถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ร่างบางยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาลุกขึ้นมาแล้วเดินเข้าไปใกล้ร่างสูงด้วยร่างกายที่เปลือยเปล่า ริวทาโร่เอามือคล้องคอเคโตะพร้อมดึงร่างสูงเข้ามาจูบเพียงแผ่วเบา จูบที่แห้งแล้งไร้ซึ่งความรักดำเนินต่อไปอีกชั่วขณะหนึ่งก่อนที่ริวทาโร่จะถอนตัวออกมา ร่างบางยิ้มหวานแต่เคโตะกลับคิดว่ามันเป็นยิ้มที่ร้ายกาจที่สุดเท่าที่เคยเห็น “ฉันบอกแล้วไง นายจะต้องเป็นของฉันตลอดไป”
“แต่ผมมีแฟนแล้วนะ และผมก็รักแฟนของผม คุณทำแบบนี้ไม่มีความละอายบ้างหรือไง”
ริวทาโร่ใช้นิ้วเดียวแตะริมฝีปากร่างสูงเป็นเชิงสั่งให้เงียบ “ยูริเป็นแฟนนายก็จริง แต่คนที่นายนอนด้วยคือฉัน นายไม่เคยมีอะไรกับเจ้านั่นเลยใช่มั้ยล่ะ ฉัน....... คือคนแรกของนาย และจะเป็นคนสุดท้ายของนายด้วย”
“ไม่มีทางหรอก” เคโตะจ้องหน้ากลับอย่างเกรี้ยวกราดก่อนจะผละตัวออกมาแล้วเดินออกไปจากห้องทันที
“พรุ่งนี้ เวลาเดิม ฉันจะรอนะเคโตะ” ริวทาโร่ตะโกนไล่หลังก่อนที่ร่างสูงจะลับสายตา ริวทาโร่ยิ้มอย่างพึงใจก่อนจะหยิบผ้าขนหนูแล้วเดินเข้าห้องน้ำเพื่อทำความสะอาดคราบต่างๆ ที่เปรอะเปื้อนตามร่างกาย เขายืนอยู่ที่หน้ากระจกครู่หนึ่งเฝ้ามองร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยแดงเป็นจ้ำๆ เขาลูบลำคอของตัวเองเบาๆ “รุนแรงจังแฮะ” ริวทาโร่พึมพำพร้อมยิ้มให้กระจก “นายหนีฉันไม่พ้นหรอกเคโตะ นายต้องเป็นของฉันคนเดียวเท่านั้น! ยูริมันจะได้รู้ว่าการสูญเสียของรักของหวงมันเป็นยังไง”
ท้องถนนที่คลาคล่ำไปด้วยนักเรียนชั้น ม.ปลาย ที่เดินขวักไขว่ ลมหนาวพัดมาเยือนอย่างอ้อยอิ่งส่งผลให้ความหนาวนั้นแทรกซึมเข้าไปในทุกอณูของร่างกาย ยูริกระชับเสื้อกันหนาวตัวหนาเพื่อป้องกันลมหนาวนั้น ปีนี้หนาวเร็วผิดปกติแฮะ เขาคิดก่อนจะพาร่างน้อยๆนั้นเดินเข้าไปในห้องเรียนที่อบอุ่นกว่า
“อรุณสวัสดิ์เคโตะ” เขาทักทายแฟนหนุ่มแล้วเดินเข้าไปนั่งโต๊ะข้างๆเคโตะเหมือนอย่างเคย
เคโตะหันมายิ้มน้อยๆให้อย่างเหนื่อยอ่อน “อรุณสวัสดิ์”
ยูริหันมามองร่างสูงอย่างสงสัย “เป็นอะไรไปวันนี้ ดูเหนื่อยๆนะ ไปพักสักหน่อยมั้ย?” เขาถามด้วยความเป็นห่วง
เคโตะส่ายหน้าเชิงปฏิเสธ “ไม่เป็นไรหรอก ฉันแค่เพลียนิดหน่อย เมื่อคืนนอนดึกน่ะ”
“ช่วงนี้ต้องดูแลตัวเองหน่อยนะเคโตะ นายดูผอมลงไปเยอะเลย กินอะไรมาหรือยัง? ถ้างั้นเดี๋ยวไปหาอะไรมาให้กินนะ รอแป๊ป” ร่างบางพูดอย่างสดใสก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้องไปทันทีโดยที่เคโตะห้ามไม่ทัน
เคโตะถอนหายใจอย่างอึดอัดหลังจากที่ยูริไปแล้ว นับวันเขาก็ยิ่งรู้สึกผิดกับการที่ต้องปิดบังยูริอย่างนี้ เมื่อไรทุกสิ่งทุกอย่างกับริวทาโร่จะสิ้นสุดลงสักที เขาทรมานเหลือเกินกับการที่ต้องกลายเป็นคนทรยศแบบนี้ ไม่อยากทำมันอีกแล้ว
ยูริเดินลงมาข้างล่างเพื่อตรงไปยังโรงอาหารของโรงเรียน แต่ก่อนที่จะเดินไปถึงที่หมายใครคนหนึ่งก็มายืนขวางทางเขาไว้ หนุ่มคนนั้นแสยะยิ้มเล็กน้อย ยูริจ้องหน้าคนๆนั้นกลับไปด้วยความตกใจ “ริวทาโร่”
ริวทาโร่หัวเราะ “ยังจำเพื่อนรักคนนี้ได้อยู่เหรอยูริ นึกว่านายจะลืมฉันไปแล้วซะอีก”
ยูริจ้องมองริวทาโร่ด้วยความตื่นตระหนก “นายมาทำอะไรที่นี่”
รอยยิ้มยังไม่คลายออกจากใบหน้าหวาน “มาทวงของของฉันคืนไง”
“แต่ฉันเลิกกับยูโตะไปแล้วนะ”
ริวทาโร่หัวเราะ “อิตาแฟนเก่าคนทรยศนั่นฉันไม่เอามันหรอก จำได้มั้ยยูริ วันที่ยูโตะมาบอกเลิกฉันแล้วก็ไปหานายซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของฉัน” น้ำเสียงของริวทาโร่เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความเย็นชาและเกรี้ยวกราด “ในขณะที่นายกำลังมีความสุขกับแฟนของเพื่อน นายรู้มั้ยว่าตอนนั้นฉันรู้สึกยังไง!” เขาตะคอกไปอย่างเดือดดาล
ยูริตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า “แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันก็แค่คบกับเขาเล่นๆ ไม่คิดว่าเขาจะไปบอกเลิกนายนี่นา”
ริวทาโร่แสยะยิ้มอย่างแค้นเคือง “กับสิ่งที่นายทำ นายไม่ได้ตั้งใจหรอกยูริ แต่สิ่งที่ฉันทำ ฉันตั้งใจ!” เขาฟาดซองสีน้ำตาลซองหนึ่งใส่ตัวยูริ ซองนั้นร่วงลงไปกับพื้นพร้อมสิ่งที่อยู่ข้างในนั้นโผล่ออกมา
ยูริก้มลงไปหยิบภาพในซองนั้นขึ้นมา พิจารณาดูทีละภาพด้วยความตกใจ หัวใจของยูริเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนแม้แต่ตอนเลิกกับยูโตะยังไม่รู้สึกถึงขนาดนี้ นี่น่ะเหรอคือสิ่งที่ริวทาโร่ต้องการ เพื่อแก้แค้นอย่างนั้นหรือ? ภาพของเคโตะที่นอนหลับสนิทโดยมีริวทาโร่นอนอยู่ข้างๆ เจ้าตัวเล็กในภาพนั้นยิ้มราวกับกำลังเยอะเย้ยเขา จากมุมภาพแล้วริวทาโร่เป็นคนถ่ายภาพนี้เอง แม้จะเห็นเพียงแค่ครึ่งตัวแต่เขาก็รู้ว่าร่างกายของสองนี้กำลังเปลือยเปล่า น้ำตาของยูริหยาดหยดลงด้วยความเสียใจ
ริวทาโร่หัวเราะโดยไม่รับรู้ถึงอารมณ์ของบุคคลตรงหน้า “บอกเลิกกับเขาซะยูริ เคโตะเป็นของฉันแล้ว”
ยูริโยนภาพนี้กลับไปให้ริวทาโร่แล้วเช็ดน้ำตาลวกๆ “ไม่จริง นายโกหก เคโตะไม่มีวันทำอย่างนนี้กับฉันเด็ดขาด”
ริวทาโร่ยักไหล่ “แต่ก็ทำไปแล้ว ฉันจะบอกอะไรให้เป็นขวัญหูของนายสักหน่อยนะยูริ รู้มั้ยว่าเมื่อคืนเคโตะไปทำอะไรมาเขาถึงได้เหนื่อยขนาดนั้น จะบอกให้ก็ได้ เมื่อคืนนี้เขาอยู่กับฉันทั้งคืนเลยล่ะ สงสัยจะใช้แรงเยอะไปหน่อยล่ะมั้ง”
“ไม่จริง!”
ริวทาโร่ปลดกระดุมออกเล็กน้อยเผยให้เห็นลำคอระหงที่เต็มไปด้วยรอยแดงเป็นปื้น “ดูสิยูริ รอยเต็มเลย แฟนนายนี่เก่งใช้ได้เลยนะ” ร่างบางยังคงพูดอย่างต่อเนื่องโดยไม่สนใจเสียงกรีดร้องของยูริ “ไปบอกเลิกเขาซะ ไม่งั้น รูปพวกนี้ว่อนทั่วเน็ตแน่ รู้ใช่มั้ยว่ามันจะเป็นยังไง” ยูริปิดหูตัวเองอย่างรับไม่ได้กับสิ่งที่ได้ยินพร้อมกรีดร้องอย่างเจ็บปวด เขาวิ่งหนีจากที่นั่นพร้อมหัวใจที่บอบช้ำกับความจริงที่ได้รู้ ริวทาโร่แสยะยิ้มขณะหยิบรูปเหล่านั้นขึ้นมา เขาหัวเราะกับตัวเองเบาๆ “หมดเวลาเล่นสนุกแล้วเคโตะ ตอนนี้แหละของจริง”
ยามเที่ยงที่อากาศหนาวเย็นเพราะพยากรณ์อากาศบอกเย็นนี้จะมีหิมะตก ยูรินั่งลงบนเก้าอี้ข้างสนามฟุตบอลอย่างเหงาหงอย ริวทาโร่ตั้งใจจะแก้แค้นและทำมันสำเร็จเสียด้วย เคโตะเป็นผู้ชายคนแรกที่เขารักอย่างจริงจัง แต่สิ่งที่ผู้ชายคนนั้นทำกับเขามันรุนแรงเกินไป เคโตะทรยศเขาอย่างร้ายกาจ เขารู้สึกราวกับเข้าใจความรู้สึกของริวทาโร่ในวันที่ยูโตะบอกเลิกได้ ทั้งความเจ็บปวดจากการสูญเสียคนรักและความรู้สึกผิดที่เคยทรยศต่อเพื่อนทำให้หัวใจของยูริยิ่งบอบช้ำ
“ยูริ มาทำอะไรที่นี่ ฉันตามหานายจนทั่วเลย” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นข้างหลังเขา
ยูริหันไปตามเสียงเรียก น้ำเสียงและแววตาที่อ่อนโยนพูดกับเขาเป็นปกติราวกับไม่เคยรู้สึกผิดอะไรเลย ยูริลุกขึ้นแล้วถอยหนีจากร่างสูงอย่างรังเกียจ “ไปซะเคโตะ อย่ายุ่งกับฉัน จากนี้เราเลิกกัน”
เคโตะตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น “นี่มันเรื่องอะไรกันยูริ”
ยูริหัวเราะทั้งน้ำตา “ริวทาโร่ โมริโมโตะ คิดเหรอว่าฉันจะไม่รู้ว่านายกับเจ้านั่นทำอะไรกันบ้าง คิดจะปิดกันไปตลอดเลยหรือไง!”
เคโตะนิ่งอึ้งกับสิ่งที่ยูริพูด เขาไปรู้เรื่องนี้ได้ยังไง “ยูริ คือว่าฉัน....”
“ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว!” ยูริกรีดร้อง “พวกนายมันน่ารังเกียจที่สุด กลับไปหาริวทาโร่ซะแล้วไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก กลับไปหาความสุขกันให้พอเลย!” เขาพูดอย่างเคียดแค้นก่อนจะเดินจากมา
เคโตะนิ่งอึ้งกับสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ เมื่อกี้นั่นมันไม่จริงใช่มั้ย? บอกสิว่ายูริกำลังโกหก? เคโตะนั่งลงตรงที่เดิมที่ยูรินั่งเมื่อสักครู่ สายตาเหม่อมองออกไปยังสนามฟุตบอลเบื้องหน้า มองไปสู่ความกว้างเปล่าอันไกลโพ้น
เสียงหัวเราะเบาๆดังขึ้นพร้อมเสียงพูดอย่างสดใส “ไงล่ะ ยูริบอกเลิกนายแล้วหรือยัง”
เคโตะหันไปทางต้นเสียง ริวทาโร่ยืนอยู่ข้างๆเขาพร้อมรอยยิ้มกวนประสาท เคโตะลุกขึ้นยืนแล้วมองริวทาโร่ด้วยความโกรธ เป็นเจ้าเด็กนี่จริงๆด้วยที่บอกยูริเรื่องนี้ “นายใช่มั้ยริวทาโร่ นายเป็นคนบอกยูริใช่มั้ย”
ริวทาโร่ยิ้มละมุน “ถ้าใช่แล้วจะทำไม”
เคโตะกำหมัดแน่นอย่างเคียดแค้น “ถ้างั้นก็พอใจแล้วล่ะสิ จบกันซักที คุณอย่ามายุ่งกับผมอีก”
“คิดว่ามันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอเคโตะ” ริวทาโร่หัวเราะอย่างท้าทาย
เคโตะแสยะยิ้มเล็กน้อยอย่างรังเกียจ “คุณมันง่ายอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”
ริวทาโร่จ้องเคโตะกลับด้วยความโกรธ “อย่าดูถูกฉันแบบนั้นนะ”
“ยอมรับความจริงสักทีสิ คุณกับผมน่ะไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว คุณยั่วผมก่อน คุณเป็นคนขอผมทั้งๆที่ผมไม่ได้เต็มใจ ดูสิ่งที่คุณทำสิ แบบนี้ไม่เรียกว่าง่ายหรอกเหรอ? คุณคงไม่ได้ทำแบบนี้กับผมแค่คนเดียวหรอกใช่มั้ยล่ะ”
“มันจะมากไปแล้วนะเคโตะ!”
เคโตะหัวเราะ “มากไปเหรอ? สิ่งที่คุณทำกับผมต่างหากที่มันมากไป ผมรักยูริคุณก็รู้ แล้วคุณจะยังมายุ่งกับผมอีกทำไม พอกันทีกับเรื่องนี้ ผมไม่อยากจะยุ่งกับคุณอีกแล้ว คุณมันน่ารังเกียจ”
ริวทาโร่เฝ้ามองร่างสูงที่กำลังเดินห่างออกไป เขานั่งลงตรงที่เดิมที่เคโตะนั่งพร้อมหยาดน้ำตาที่ไหลริน ทำไมต้องเสียใจ? ทำไมเขาต้องร้องไห้? การแก้แค้นมันก็สำเร็จไปแล้วแต่ทำไมหัวใจเขาถึงได้เจ็บปวดอย่างนี้ ริวทาโร่ไม่เข้าใจเลยสักนิดเดียว เขารู้สึกว่าหัวใจมันว่างเปล่าผิดปกติ ว่างเปล่า ว่างเปล่าจนเกินไป
ลมหนาวพัดมาวูบหนึ่ง ความหนาวเหน็บของมันทำให้ร่างกายของเคโตะสั่นสะท้าน เขารีบเดินฝ่าฝูงชนเพื่อไปให้ถึงคอนโดของตัวเอง ไม่มีประโยชน์ที่จะไปง้อยูริเพราะมันจบแล้ว ลิฟต์เคลื่อนตัวขึ้นไปยังชั้น 15 ที่เป็นห้องพักของเขา ในลิฟต์นั้นหนาวเหน็บยิ่งมีแค่เขาคนเดียวอยู่ด้วยแล้วยิ่งทำให้มันดูโหวงเหวง เคโตะรู้สึกถึงความเหงาอย่างประหลาด ปกติเวลาแบบนี้เขาจะต้องอยู่กับริวทาโร่ แม้บางครั้งอาจไม่ได้ทำอะไรเลยก็ตาม แต่ตลอดเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ไม่มีวันไหนที่เขาไม่ได้กอดร่างบอบบางนั่นเลย
เคโตะไม่รู้ตัวว่าตัวเองเผลอคิดถึงริวทาโร่ตั้งแต่เมื่อไรแต่พอรู้ตัวอีกทีลิฟต์ก็ส่งเสียงดังเตือนว่าถึงชั้นของเขาแล้ว เคโตะเดินออกจากลิฟต์ด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ค้างคาอย่างบอกไปถูก ในวันนี้เขาต้องนอนคนเดียวหรือนี่? เพียงแค่คิดเท่านั้นกลับทำให้ความเหงาพัดกระหน่ำในหัวใจอย่างไม่หยุดหย่อน ต้องไม่ใช่แบบนี้สิ เขาจะคิดถึงริวทาโร่ทำไมกัน
เคโตะหยิบกุญแจห้องขึ้นมาไข แต่ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป เสียงของใครบางคนที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นข้างหลังของเขา “คืนนี้ฉันขอนอนกับนายได้มั้ย” เคโตะยืนนิ่งอย่างตกใจ เสียงของริวทาโร่ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง “วันนี้หิมะตก ฉันไม่อยากจะนอนคนเดียว”
เคโตะถอนหายใจเล็กน้อย เขาต้องพยายามควบคุมตัวเองอย่างมากเพื่อไม่ให้หันกลับไปอุ้มร่างบางเข้าไปนอนบนเตียงกับเขา เคโตะกำลูกบิดประตูแน่นอย่างควบคุมความรู้สึก “กลับไปซะ อย่าทำแบบนี้อีกเลย”
“ฉันคิดถึงนาย” น้ำเสียงของริวทาโร่เศร้าลงกว่าปกติ “อีกสักครั้งได้มั้ยเคโตะ ครั้งสุดท้ายก็ได้”
เคโตะพยายามควบคุมลมหายใจให้เป็นปกติ “เพื่ออะไรริวทาโร่ จบแล้วก็ให้มันจบไปสิ เรื่องแบบนั้นจะไม่มีอีกต่อไปแล้ว” เคโตะรับรู้ได้ถึงอ้อมแขนเล็กนั้นกำลังโอบกอดเขาจากด้านหลัง ลมหายใจอุ่นๆ ปะทะที่ต้นคอเขาอย่างยั่วยวน เคโตะแกะมือริวทาโร่ออกแล้วหันกลับมาเพื่อจบเรื่องนี้สักที “ผมบอกให้หยุดไง!” เขาตะคอก
ริวทาโร่สบตาเคโตะนิ่ง ดวงตาของร่างบางบวมแดงและเศร้าหมองอย่างที่เคโตะไม่เคยเห็นมาก่อน ความเศร้าโศกฉายผ่านน้ำตาที่รื้นขึ้นเต็มดวงตา “นายรักฉันบ้างมั้ยเคโตะ”
เคโตะอึ้งกับสิ่งที่ริวทาโร่ถาม เขารักริวทาโร่บ้างหรือเปล่า เขาเองก็ไม่รู้ แต่สิ่งที่ชัดเจนในความรู้สึกตอนนี้คือ เขาอยากจะพาริวทาโร่เข้าไปในห้องแล้วปฏิบัติสิ่งที่พวกเขาคุ้นเคยมาตลอด 1 ปี “ผมไม่รู้” เคโตะตอบ
ริวทาโร่ยิ้มเศร้าๆ “นายอาจจะคิดว่าฉันง่ายก็แล้วแต่นายเคโตะ แต่ฉันอยากให้นายรู้ไว้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา นอกจากนายแล้วฉันก็ไม่เคยนอนกับใครอีกเลย นายเป็นคนแรกของฉัน นายเป็นคนพรากบริสุทธิ์ของฉัน แล้วนายยังขโมยหัวใจของฉันไปด้วย”
เคโตะรับรู้ได้ว่าตัวเองกำลังยิ้มเมื่อได้ยินสิ่งที่ริวทาโร่พูด ทั้งๆที่ยูริทิ้งเขาไปแต่ความจริงคือเขาไม่ได้รู้สึกเสียใจแม้แต่น้อย เพียงสิ่งเดียวที่เขากลัวคือการที่ริวทาโร่จะหายไปจากชีวิตเขา เขาแค่กลัวว่าจะไม่ได้เจอริวทาโร่อีกก็แค่นั้น เคโตะดึงร่างบางนั้นเข้ามากอดไว้อย่างอ่อนโยน “ขอโทษนะริวทาโร่ ขอโทษที่ผมเคยพูดไม่ดีกับคุณ”
“รักฉันมั้ยเคโตะ” ริวทาโร่ถามเสียงอู้อี้ภายในอ้อมกอด
เคโตะยิ้มอย่างสดใส “ผมนึกว่าคุณจะรังเกียจผมซะอีก”
“แล้วทำไมถึงไล่ฉันไปล่ะ ทำไมตอนนั้นนายต้องไล่ฉันด้วย” ร่างบางพูดพร้อมเสียงสะอื้นไห้อย่างเสียใจ
เคโตะเงียบไปอย่างชั่งใจ “ผมคิดว่าคุณเกลียดผม แต่ถ้ารู้อย่างนี้ผมคงไม่ไล่คุณหรอก”
ริวทาโร่ผละอ้อมกอดออก “แล้วนายรักฉันมั้ยล่ะ?” เขาถามอย่างเอาแต่ใจ
เคโตะเดินเข้าไปใกล้แล้วโน้มตัวลงไปจูบร่างบางนั้นอย่างอ่อนโยน จากจูบที่เคยแห้งแล้งแต่ครั้งนี้ริวทาโร่กลับรู้สึกได้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่ส่งผ่านมาตามสัมผัสนั่น เคโตะถอนจูบออกแล้วมองเขาด้วยรอยยิ้ม “ไปพิสูจน์กับผมเถอะ ผมจะทำให้คุณได้รับรู้ถึงความรู้สึกที่ผมมี หวังว่าคุณคงไม่รังเกียจนะ”
ริวทาโร่หน้าแดงเรื่อขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ จริงอยู่ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาจะทำอะไรแบบนั้น แต่ความรู้สึกในครั้งนี้กลับเปลี่ยนไป ริวทาโร่รู้สึกอายขึ้นมาอย่างบอกถูกขณะเดินตามเคโตะเข้าไปในห้องอย่างว่าง่าย เสียงประตูห้องปิดลงพร้อมหัวใจของริวทาโร่ที่เต้นโครมครามไม่หยุด เคโตะเดินเข้ามาใกล้แล้วโอบกอดเขาจากด้านหลัง
“ตื่นเต้นเหรอริวทาโร่” เสียงกระซิบที่หูอย่างแผ่วเบา ริวทาโร่รู้สึกถึงใบหน้าที่ร้อนผ่าวขึ้นมาด้วยความอาย เคโตะซุกไซ้ริมฝีปากลงไปเรื่อกับต้นคอขาวเนียนอย่างชำนาญ ริวทาโร่รับรู้ถึงกล้ามเนื้อหน้าท้องที่เกร็งแน่นเมื่อมือใหญ่ของเคโตะกำลังคอยปลุกเร้าแรงปรารถนาอย่างช้าๆ มือใหญ่พาดผ่านไปทั่วร่างของเขาพร้อมจูบที่เลื่อนขึ้นมาสัมผัสกับใบหูเล็กก่อนจะโน้มเข้ามาจูบบนริมฝีปากอิ่ม
เคโตะค่อยๆประคองร่างของริวทาโร่ให้นอนลงบนเตียงนอนหนานุ่มก่อนจะโน้มตัวเข้าไปจูบกับริมฝีปากของร่างบางอีกครั้ง “รับรู้อะไรบ้างหรือยังครับคนสวย” เคโตะกระซิบ ริวทาโร่ส่ายหน้าน้อยๆ เคโตะก้มลงไปจูบกับร่างบางอีกครั้ง “ผมทำด้วยความรู้สึกทั้งหมดของผมไม่ใช่เพราะคุณสั่ง ถ้าคุณไม่รับรู้มัน ผมโกรธคุณจริงๆด้วยนะ” เคโตะพูดทีเล่นทีจริงพร้อมเสียงหัวเราะสดใสที่ริวทาโร่ไม่เคยได้ยินมาก่อน ลิ้นหนาลากไล้วนบนพวงแก้มสีชมพูหวานก่อนจะลามเลียไปจนถึงใบหูเล็กที่แดงเรื่อด้วยเลือดที่สูบฉีด เคโตะขบเม้มลำคอขาวอย่างหมั่นเขี้ยวก่อนจะกระซิบเบาๆ “คุณก็เป็นคนแรกและจะคนสุดท้ายของผม รักนะครับ ที่รัก”
------------------------------------------ THE END ------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------
แต่งเสร็จตอนตี 2 กว่าๆ ดังนั้นถ้าไม่เข้าใจประการใดขออภัยอย่างสุดซึ้ง
แต่งอะไรก็ไม่รู้ มึนตัวเองเหมือนกัน ฮ่าๆๆๆๆ
เรทนิดๆ อย่าแบนเค้าน้าา T^T
ผลงานอื่นๆ ของ POP_okamo ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ POP_okamo
ความคิดเห็น